ทำเว็บให้ติดอันดับ Google ใครว่ายาก

เพื่อนๆ สบายดีกันมั้ยคะ

ห่างหายไปนาน เนื่องจากงานร้านงาน office ยุ่งวุ่นวาย จนไม่มีเวลาเลย

ร้าน I LoVe SuE ก็เคยเป็นร้านนึงที่ประสบปัญหาเงียบเหงา

ไม่มีใครกดสั่งซื้อ แม้จะสอบถาม พูดคุยกันบนเว็บบอร์ด ก็ไม่มี

ต้องไม่ท้อค่ะ เปิดร้านใหม่ๆ ในระยะ 1-2 เดือนแรก แนะนำว่าต้องทำใจ

การซื้อ - ขาย แบบไม่เห็นหน้ากัน และต้องจ่ายเงินก่อนได้ของทีหลังแบบนี้

ย่อมมีความระแวงหวาดกลัวเป็นธรรมดาค่ะ

ร้า่นเราก็ไม่พ้นปัญหานี้ค่ะ

เดือนแรก ร้านเงียบมาก อีเมล์ซักฉบับก็ไม่มี และด้วยสินค้าร้านเราเป็นงานแฮนด์เมด

เราทำเอง ก็เลยมีพร้อมส่งไม่มาก ดูกร่อยๆ คลิกไปคลิกมา ก็ไม่มีอะไรให้ดูแล้ว

เรามีข้อแนะนำสำหรับคนที่กำลังท้อแท้กับการเปิดร้านค้าออนไลน์อยู่นะคะ

1. ทำร้านให้น่าสนใจ

 
ไม่ต้องไปเสียเงินจ้างเค้าทำเว็บให้เปลืองค่ะ ร้านค้าที่ดูดี สีสันไม่เลอะเทอะ หาสินค้าง่าย

หมวดหมู่ชัดเจน แค่นี้ เราว่า โอเคมากๆแล้ว

วิธีการตกแต่งร้าน ก็ไม่ต้องพิสดารอะไรมากค่ะ และที่สำคัญ อย่าใส่ Flash เยอะ

เพราะ Google ไม่รู้จักไฟล์ Flash นะคะ ตกแต่งแค่พอประมาณก็พอ

2. ขยันถ่ายรูปหน่อย

รูปภาพสินค้าเป็นสิ่งสำคัญมาก ถึงแม้คุณจะมีสินค้าประเภทซื้อมา - ขายไป ก็อย่าได้เพิกเฉยกับการถ่ายรูป

อย่าเอาแต่ไปก๊อปรูปจากร้านค้าที่เรารับเค้ามา หรือ ถ่ายรูปแค่เพียงมุมใดมุมหนึ่ง

ขยันถ่ายรูปซักนิด เอาให้หมด ซ้าย ขวา หน้า หลัง ข้างใน ข้างนอก

หาอุปกรณ์มาตกแต่ง Background ซักนิด ใส่ข้อความแสดงร้านค้าลงไปบนรูปด้วย

เมื่อลูกค้าเข้ามาดูสินค้าคุณ เค้าจะประทับใจ และมีคำถามกับตัวสินค้าน้อยลง

อีกอย่างที่ไม่ควรมองข้ามคือ การตั้งชื่อรูปภาพ ให้ใช้ชื่อรูปที่เป็น Key word ของร้านคุณ

เช่น ตุ๊กตาหมี แฮนด์เมด กระเป๋าควิลท์ เป็นต้น เนื่องจาก google จะไม่รู้จักชื่อรูป

แต่มันจะมองหาคำที่ตรงกับกันกับที่มีผู้สืบค้นข้อมูล แล้วนำมาแสดงผล

3. ไม่ต้องขยันโพสต์ขายในเว็บบอร์ดฟรีมากก็ได้

 
บางท่านอาจจะบอกว่า ให้ไปโพสต์ขายในกระทู้ หรือ เว็บประกาศขายของฟรีทุกวัน

วันละเท่านั้นเท่านี้ อย่าได้ขาด เราเป็นคนหนึ่งนะคะ ที่ขี้เกียจทำอะไรแบบนั้นมากๆ

 จะบอกว่า ไม่จำเป็นเสมอไปค่ะ เอาแค่เว็บดังๆ เลือกมาซัก 2 - 3 เว็บก็พอ ที่เราแนะนำ คือ

- nanalady

- ladysquare

- pantip

- prakard

- facebook

เอาแค่นี้พอค่ะ โพสต์อัพเดทซักอาทิตย์ละครั้ง ก็พอแล้ว

และให้พยายามทำลิงก์มาที่เว็บของเราที่รูปเสมอ และควรใส่ลายเซ็นต์ที่แสดงเจ้าของลงไปที่ภาพสินค้า

เพื่อขณะที่มีคนเปิดดู เค้าจะได้คลิกตามมาได้ หรือเค้าอาจจดจำได้

มากกว่าการเปิดดูแค่รูปที่ไม่มีอักษรอะไรเลย

4. ใจเย็นๆ เดี๋ยวดีเอง

ร้าน ไม่สามารถติดอันดับได้ในเวลาข้ามคืนนะคะ ทำอะไรลงไปแล้ว รอหน่อย

ระหว่างรอ ก็แลกลิงค์ แลกแบนเนอร์กับเพื่อนบ้านบ้าง

นั่งทำบทความโพสต์ลงเว็บบอร์ดสาธารณะ หรือถ้าขี้เกียจ ก็ไปก๊อปเค้ามา

แล้ว reference ให้เค้าแทนก็ได้ เป็นการสร้างใยแมงมุมในเครือข่ายอินเตอร์เน็ต

เพราะการที่มีคนคลิกเข้ามาอ่านบทความเรา แล้วคลิกมาที่เว็บร้านคุณจากหลายๆที่

จะทำให้ติดอันดับ Google เร็วมากๆ

ลงบทความบ่อยๆ ทุกวันยิ่งดี Google ชอบเว็บที่มีการเคลื่อนไหวตลอดเวลาค่ะ

5. จริงใจกับลูกค้า

แสดงความเป็นตัวตนของคุณ จริงใจกับลูกค้าของคุณ มีหลายวิธีค่ะ แล้วแต่ว่าจะสะดวกอย่างไร

สำหรับเรา ร้าน I LoVe SuE เราจะบอกตัวตนของเราซึ่งเป็นเจ้าของร้าน ให้ลูกค้าทราบเลย

กฏเกณฑ์ค้าขาย มีอย่างไร พิมพ์บอกเอาไว้ให้ชัด คุณทำอะไรได้ - ไม่ได้ ก็แจ้งไว้

เมื่อมีการถาม ก็ตอบแบบใจเย็นๆ อาจมีบางคนถามอยู่นั่น แต่ไม่ซื้อ ก็อย่าเพิ่งโมโหเค้า

บางทีเค้าอาจจะกำลังพิจารณา แล้วมาอุดหนุนคุณแบบถล่มทลาย ซื้อเกลี้ยงร้านเลยก็ได้

6. หาเพื่อน

หมายถึงว่า สินค้าของคุณเป็นกลุ่มไหน คุณก็เอาร้านเข้าไปแจมในแวดวงนั้น เช่น ขายหมอน ขายตุ๊กตา

ก็ไปแลกร้าน แลกแบนเนอร์กับร้านขายเฟอร์นิเจอร์ ร้านขายผ้าห่มของแฮนด์เมด

ขายของเด็กเล่น หุ่นยนต์ ก็ไปแลกลิงก์กับร้านขายของเสื้อผ้าเด็ก เป็นต้น

หรือจะไปตามเว็บโรงเรียน เข้าไปในกระทู้ที่เด็กๆ เค้าคุยกัน ก็ไม่ผิด

7. ตรงเวลา

 
อันนี้สำคัญมาก บอกจะส่งก็ต้องส่งให้ได้ ห้่ามผิดคำพูด

เค้าจ่ายเงินเรามาก่อน เค้าก็นั่งใจเต้นระรัวจนกว่าของจะถึงมืออยู่แล้วนะคะ

เราทำแค่นี้จริงๆ ค่ะ ใช้เวลาประมาณ 3 เดือน เว็บก็ติด Top5 เมื่อ search ด้วย Google แล้วค่ะ

ขยันโพสต์รูปในเฟซบุค ขยันอัพเดทสถานะ ทำอะไรก็โพสต์เข้าไว้

เตรียมของใส่กล่อง ใส่ซองเสร็จแล้ว ก็โพสต์รูปอีก

ลูกค้าเค้าก็จะตื่นเต้น ว่าเค้าจะได้พัสดุหน้าตาแบบนี้นะ

สินค้าเึ้ค้าจะเป็นแบบนั้น แม่ค้าจ่าหน้ามาลายมือแบบนี้

คนอื่นที่ยังไม่กล้าซื้อคุณ เค้าอาจจะเกิดความสนใจ

ประทับใจในสิ่งที่คุณแสดงออก เพราะมันบ่งบอกถึงความใส่ใจ 

สู้ๆ นะคะ ทุกคน ใจเย็นๆ เป็นกำลังใจให้ค่ะ ^ - ^